
จะรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นบัญชีม้า คำถามในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้า การทำธุรกรรมการเงิน ที่ง่ายสะดวกรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสของมิจฉาชีพ ในการกระทำผิดกฎหมาย จากการใช้บัญชีม้าเป็นเครื่องมือ ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อ บทความนี้จะกล่าวถึง บัญชีม้านิติบุคคล และการตรวจสอบบัญชีม้า
บัญชีม้า คืออะไร อธิบาย “บัญชีม้า” เป็นบัญชีที่ใช้สำหรับ ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ต่าง ๆ โดยมิจฉาชีพจะเปิดบัญชีแบบนิติบุคคล และจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน แล้วนำไปเปิดบัญชีธนาคาร เริ่มมีการเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2563 เป็นต้นมา และขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2567 ประมาณ 20-30%
แต่การเปิดบัญชีนิติบุคคล ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของบริษัท ซึ่งสิ่งที่ทำจะเป็นวิธีการ หลอกลวงทางออนไลน์ หลอกโอนเงิน รับเงินจากเว็บพนัน การฟอกเงิน การฉ้อโกง และกิจกรรมอาชญากรรม โดยบัญชีม้าเหล่านี้ จะดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส และนำไปใช้หลีกเลี่ยงภาษี (2023) [1]
วิธีการตรวจสอบบัญชีม้า ค้นหาบัญชีของมิจฉาชีพก่อนตกเป็นเหยื่อ เป็นวิธีการที่ทำให้คนที่กำลังกังวล ว่ากำลังจะถูกโกงหรือโดนหลอก เกี่ยวกับบัญชีนั้น ๆ สามารถตรวจสอบได้ ตามรายละเอียดดังนี้
ที่มา: วิธีตรวจสอบบัญชีม้าและการหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ (21 ตุลาคม 2024) [2]
การหลอกให้เปิดบัญชีม้านั้น จะมีขั้นตอนที่คล้ายคลึงกัน โดยมิจฉาชีพจะใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยา และเทคโนโลยี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนที่จะจูงใจให้เหยื่อหลงเชื่อ และทำตามที่บอก โดยขั้นตอนการหลอกให้เปิดบัญชีม้า ได้แก่การสร้างเรื่องหลอกลวง
เช่นการเสนองานให้ทำ หรืออาจจะเป็นการ หลอกขอความช่วยเหลือ และมีการล่อลวงด้วยเงิน ซึ่งเป็นค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง เพื่อแลกกับการเปิดบัญชีให้ และนอกจากนี้ ยังเคยมีเหตุการณ์ที่มิจฉาชีพ ขโมยข้อมูลส่วนตัวจากผู้เสียหาย เพื่อดำเนินการเปิดบัญชีเองอีกด้วย ดังนั้นข้อมูลส่วนตัวทุกประเภท ก็อย่ายอมให้ใครรู้ง่าย ๆ จะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด
ผลการสำรวจสถิติจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า บัญชีม้าในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 ถูกระงับไปแล้วกว่า 135,000 บัญชี และดำเนินการจับกุมเจ้าของบัญชีจำนวน 869 ราย
พบว่าใช้เพื่อการฟอกเงิน การหลีกเลี่ยงภาษี และการตรวจสอบจากภาครัฐ สนับสนุนการพนันออนไลน์ และการโอนเงินออกนอกประเทศ โดยมีอัตราการเติบโตของบัญชีม้าชัดเจน ช่วงปี 2565-2567 และทางรัฐกำลังเพิ่มมาตรการ ตรวจสอบและปราบปรามเพิ่มมากขึ้น
บัญชีม้าเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่เหล่ามิจฉาชีพใช้ในการฟอกเงิน ซึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนเงินสกปรก ที่ได้มาจากการทำผิดกฎหมายให้กลายเป็นเงินสะอาด โดยวิธีการฟอกเงิน ของเหล่ามิจฉาชีพนั้น จะใช้บัญชีม้า เพื่ออำพรางเส้นทางการเงิน
ตัวอย่างเช่น เงินจำนวน 1 ล้านบาท ที่ได้จากการฉ้อโกง จะถูกโอนไปยังบัญชีม้าอื่น ต่อไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด ก็จะมีการถอนเงินสดออกมา เพื่อใช้ในการซื้อของมีค่าราคาสูง เช่นทองคำ นาฬิกาหรู หรือสิ่งที่สามารถขายแล้วได้กำไรมากขึ้นในอนาคต
สำหรับผู้ที่ไม่รู้ แล้วโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้า สิ่งที่ควรทำก็คือ การติดต่อกับทางธนาคารให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะขอระงับการทำธุรกรรมเป็นอันดับแรก จากนั้นก็รวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แล้วเข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยนำหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มาให้ทางเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่ติดต่อกับมิจฉาชีพ สลิปการโอนเงิน และอื่น ๆ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และเป็นการปกป้องตนเอง จากการถูกใช้เป็นเครื่องมือ ของเหล่ามิจฉาชีพนั่นเอง (16 ธันวาคม 2024) [3]
โดยสรุปแล้ว การที่จะรู้ได้ว่า บัญชีไหนเป็นบัญชีม้าหรือไม่นั้น สามารถดูได้จาก พฤติกรรมการเงินที่ไม่ปกติ และคำกล่าวอ้างที่น่าสงสัย ซึ่งหากพบเจอ ก็ให้วังเอาไว้เสมอ เพราะว่ามันคือสัญญาณอันตราย ที่จะนำมาซึ่งความเสียหายมากมาย ทั้งต่อตนเอง และผู้อื่นอีกด้วย
สำหรับใครที่ไม่รู้ ก็ควรที่จะระมัดระวังให้มาก ซึ่งหากไม่แน่ใจ ก็แจ้งกับทางธนาคาร หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
บัญชีม้าส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างแน่นอน โดยแบ่งผลกระทบออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ผลกระทบโดยตรง จากอาชญากรรมที่หลากหลาย และผลกระทบทางอ้อม อย่างที่ข่าวสื่อต่าง ๆ ได้ลงในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ผู้บริสุทธิ์โดนอายัดบัญชีธนาคาร
เพราะไปรับโอนเงินจากบัญชีม้า โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทำให้ความเชื่อถือ ที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลลดลง แถมการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ค่อนข้างที่จะล่าช้ามาก ๆ ทำให้ผู้เสียหาย ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในประเทศไทยโดยตรง
การลดปัญหาบัญชีม้า ในสังคมของประเทศไทยนั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ สถาบันการเงิน และประชาชน โดยภาครัฐ ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ส่วนสถาบันการเงิน ก็จะต้องปรับปรุงกระบวนการอายัดบัญชี
และประชาชน ก็อย่าหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ หรือให้ความร่วมมือกับเหล่ามิจฉาชีพ เพราะถึงแม้จะได้เงินก้อนจากข้อเสนอ แต่ผลเสียที่ตามมานั้น บอกเลยว่าร้ายแรงมาก