ประวัติคาสิโน เบลลาจิโอ อะไรคือเบื้องหลังของความอลังการ ที่ได้เห็นกันในปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นทั้งคาสิโน และรีสอร์ตระดับตำนาน ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นหนึ่งใน ของลาสเวกัสที่มอบความหรูหรา และโดดเด่น โดยในบทความนี้ ก็จะเป็นการพาไปสำรวจ เกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลัง ของสถานที่แห่งนี้ ซึ่งมีจะรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามข้อมูลต่อจากนี้ได้เลย
ประวัติศาสตร์ ของรีสอร์ตโรงแรมหรู และคาสิโนที่กล่าวถึงนี้ เริ่มต้นเมื่อ เดือนพฤศจิกายน 1992 เพราะก่อนหน้านี้ ถูกครอบครองโดย โรงแรมคาสิโนที่มีชื่อว่า Dunes ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1955 และถูกซื้อต่อโดย Steve Wynn หรือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ก่อนที่จะมีการรื้อถอนและสร้างรีสอร์ตใหม่ขึ้นมาแทนที่
และมีการประกาศแผนการสร้างรีสอร์ตใหม่ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1994 โดยเปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1998 ที่มาพร้อมห้องพักมากมาย บนอาคารสูง 36 ชั้น แต่รายได้ในช่วงแรก ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ Steve Wynn จึงได้ถอนตัวออกมา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2543 ก่อนที่จะกลายมาเป็น รีสอร์ตโรงแรมหรู และคาสิโนเบลลาจิโอ ในปัจจุบันนี้ (22 สิงหาคม 2025) [1]
คาสิโนเบลลาจิโอ มีสถานที่ตั้ง อยู่ที่ 3600 S Las Vegas Blvd, Las Vegas, NV 89109 ในสหรัฐอเมริกา หรือตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง Fountains of Bellagio ที่มีการแสดงน้ำพุเต้นระบำ ประกอบดนตรี และแสงสีสุดอลังการ ที่มีชื่อเสียง และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ที่โด่งดังที่สุดในลาสเวกัส
ส่วนเรื่องของการเดินทาง สำหรับนักท่องเที่ยวนั้น ก็ไม่ได้ต่างจาก ประวัติฟลามิงโก ลาสเวกัส มากนัก ซึ่งก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถโมโนเรล แท็กซี่ รถยนต์เช่า รถบัส ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกสบาย ของผู้ที่ต้องการเดินทางไปนั่นเอง
อย่างที่บอกไป สถานที่แห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่คาสิโนที่บริการ แต่ภายในมีทั้งห้องพัก ที่มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ ห้องนั่งเล่น อินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี แถมสามารถเพลิดเพลินไปกับสระว่ายน้ำ และอาหารต่าง ๆ ระหว่างการเข้าพักได้อย่างเต็มที่
และนอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมผ่อนคลายมากมาย ยกตัวอย่างเช่นซาวน่า บริการนวด สปา สวน ห้องฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ อ่างแช่น้ำร้อน และอีกมากมาย ที่บอกได้เลยว่าครบครัน และพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีเจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับ ดูแลอยู่ตลอดเวลา (25 สิงหาคม 2025) [2]
ร้านอาหารที่อยู่ภายใน รีสอร์ตโรงแรมหรู และคาสิโนที่กล่าวถึงนี้ มีร้านอาหารชื่อดังมากมาย ซึ่งจากข้อมูลบนโลกออนไลน์ พบว่ามีร้านอาหารแบบง่าย ๆ ไปจนถึงร้านอาหารชั้นเลิศ โดยร้านอาหารที่ผู้คนนิยม และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
ซึ่งได้แก่ PRIME Steakhouse, Spago, Michael Mina, LAGO by Julian Serrano, The Mayfair Supper Club, Sadelle’s Café, Yellowtail Japanese Restaurant & Lounge, Jasmine และ The Buffet at Bellagio แถมยังมีการแบ่งประเภทร้านอาหาร ออกเป็นหมวดหมู่อีกด้วย
หากเบื่อกับการเดิมพันในคาสิโน หรือพักผ่อนจนหายเหนื่อยแล้ว ก็สามารถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ คาสิโนได้ ไม่ว่าจะเป็น Bellagio Chocolate Fountain น้ำพุช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุดในโลก High Roller ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ สูง 550 ฟุต หรือจะไปถ่ายรูปใกล้ ๆ Eiffel Tower Viewing Deck
ซึ่งก็คือหอไอเฟล ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนจาก Bellagio จึงสามารถเดินข้ามถนนไปได้เลย และนอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมายให้เลือกทำอีกด้วย (2025) [3]
สำหรับค่าเข้าบริการคาสิโนนั้น จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่การเข้าใช้พื้นที่ในคาสิโน จะต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ส่วนบริการอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเดิมพันในคาสิโน จะมีการเก็บค่าบริการ ไม่ว่าจะเป็นค่าที่จอดรถ ค่าพัก หรือค่าการเข้าชมการแสดงบางอย่าง แต่การแสดงน้ำพุเต้นระบำ ประกอบดนตรี และแสงสีสุดอลังการ สามารถเข้าชมได้ฟรี
ประวัติของเบลลาจิโอ เป็นคาสิโน และรีสอร์ตโรงแรมหรู ที่ถือว่ามีเรื่องราวน่าสนใจ ในลาสเวกัส ที่สามารถหล่อหลอมลาสเวกัสในปัจจุบัน ให้มีความเจริญรุ่งเรือง โดยสร้างนิยามใหม่ให้กับ ประสบการณ์ของการพักผ่อน และการเดิมพันได้อย่างยอดเยี่ยม
แถมมีความโดดเด่น ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็กลายเป็นแลนด์มาร์คที่ไม่เคยหลับใหล และยังคงคงมีบทสำคัญ ในประวัติศาสตร์ของมหานครลาสเวกัสอีกด้วย
สำหรับแหล่งช็อปปิ้ง ต้องบอกเลยว่า มีรอบคาสิโนแห่งนี้ มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านไวน์ชั้นดี อุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีสไตล์ ซิการ์คุณภาพสูง เสื้อผ้า และสินค้าเทคโนโลยีมากมาย และนอกจากนี้ยังมี Atomic City Tattoo หรือร้านสักศิลปะบนร่างกายอีกด้วย สำหรับใครที่ไปพัก บอกเลยว่าห้ามพลาด ซึ่งเรียกได้ว่ามีสินค้าน่าสนใจมากมาย ให้เลือกช็อปปิ้งอย่างครบครัน
ในส่วนของราคาค่าเข้าพัก รีสอร์ตโรงแรมหรู และคาสิโนแห่งนี้ ห้องพักราคาจะอยู่ที่ประมาณ 301 ถึง 350 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก หากนำไปเปรียบเทียบกับ ห้องพักในลาสเวกัสทั่วไป ที่มีราคา 201 ถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบาย และความหรูหรานั่นเอง
